‘ปลัดแรงงาน’เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ก.แรงงาน ย้ำทำงาน 3 ระยะ จัดเจ้าหน้าที่ทุกกรมบูรณาการข้อมูล สรุปผลรายงาน ‘รัฐมนตรีแรงงาน’ ทุกวันพฤหัสบดี พร้อมเดินหน้าจัดทำยุทธศาสตร์ทุก 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน ติดตามกำกับความก้าวหน้า รวบรวมข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ ย้ำจัดทำรายงานร่าง Tip Report ให้แล้วเสร็จภายในธันวาคมนี้
หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน กระทรวงแรงงาน (ศปกค.รง.) (Prevention of Human Trafficking on Labour Operation Center :PHTLOC) ณ ห้องประชุมปลัดกระทรวงแรงงาน ชั้น 7 อาคารกระทรวงแรงงาน ว่า ศูนย์ฯ ตั้งขึ้นจากความก้าวหน้าของรัฐบาลและกระทรวงแรงงานในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ จากกรณีที่สหรัฐ ฯ จัดลำดับไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่มีการค้ามนุษย์ระดับ (Tier 3) สำหรับการทำงานของศูนย์ฯ มี 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว และแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะจัดเจ้าหน้าที่มาประจำในทุกวันพฤหัสบดีเพื่อบูรณาการข้อมูล และสรุปข้อมูลรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ จะจัดทำยุทธศาสตร์และโรดแมปเพื่อติดตามกำกับดูแลความก้าวหน้าในทุก 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน อย่างไรก็ตามในรอบ 1 ปีที่ผ่านมากระทรวงแรงงานมีความก้าวหน้าในเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ทั้งการออกกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในภาคประมงและกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานภาคเกษตร ที่กำหนดอายุขั้นต่ำทำงานในภาคเกษตรจาก 13 เป็น 15 ปี และภาคประมงจาก 16 เป็น 18 ปี รวมทั้งการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้าง
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า การตรวจแรงงานประมงแบบบูรณาของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO) เพื่อบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุม พบว่าแทบจะไม่มีแรงงานผิดกฎหมาย ในระยะเร่งด่วนจะเตรียมการจัดทำร่างรายงาน Tip Report นั้นจะต้องรวบรวมข้อมูลในกรอบการทำงานด้านการป้องกันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ ก่อนที่จะตรวจร่างรายงานในเดือนมกราคม 25559 ซึ่งคาดว่ารายงานฉบับสมบูรณ์จะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559
สำหรับการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันฯ จะมีการประชุมและสรุปความก้าวหน้าการดำเนินงานทุกวันพฤหัสบดี เวลา 09.00 น. นอกจากนี้ให้ทุกกรม และจังหวัดตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวและรายงานการดำเนินการเข้ามาด้วย แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนศูนย์ฯ จะมีการทำงานเร็วกว่านั้น ส่วนการเร่งรัดพิสูจน์สัญชาตินั้นเป็นหนึ่งในแผนงานที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าหากภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 แล้วการพิสูจน์สัญชาติยังไม่แล้วเสร็จคงจะต้องพิจารณาหลักการอื่น |